Featured

ฮานอย ประเทศเวียดนาม

ทัวร์เวียดนาม
ท่องเที่ยวฮานอยคราวนี้ไปจัดทริปท่องเที่ยวฮานอย อาทดลอง นิงห์บิงห์ 4 วัน ช่องทางมาอย่างนี้ลางานไปเลยจ้ะ ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 2 ชั่วโมง ก็ถึงสนามบินนอยไบ กรุงฮานอย เป็นจังหวัดที่มีความพิเศษทางธรรมชาติมากมาย ฮานอยมีพื้นที่เป็นที่เปียกน้ำในเขตแดนอันกว้างขวาง ตรงนี้หลายๆคนเรียกว่า อ่าวฮาทดลองบนแผนดินหรือฮาทดลองบก นั่นเองจ้ะ!! ตรงนี้ทางทัวร์จะให้พวกเราได้อิสระสำหรับการช้อปปิ้งตามร้านต่างๆแล้วก็ที่ยินดีกว่านั้น แถวที่พัก มีลานเบียร์สดให้จิบกันเบาๆกับบรรยากาศเย็นสบายกลางคืน มาถึงแล้วจะต้องทดลองเบียร์สดกันนะคะ^
กลางทางไปถ้ำตำก๊อกน้ำจะผ่านท้องนาข้าวอยู่สองข้างทาง ถ้ำตำก๊อกน้ำจะมีหินงอกหินย้อยอันน่าแปลกหัวใจ หลบซ่อนอยู่ภายใต้ความลึกของแนวเขา เทือกเขาแล้วก็สมุทรเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้ตรงนี้มีทำเลที่ตั้งที่อย่างกับภาพวาดแหนะ
และก็ตามด้วยการนั่งรถยนต์กอล์ฟเพื่อสักการพุทธปฏิมาที่วัด BAI DINH ซึ่งเป็นวัดโบราณประจำเมืองของเมืองหลวงเก่าที่มีประวัติและก็ความโด่งดังของเวียดนาม มีพุทธรูปติดตั้งเรียงรายทั้งปวง 2,000 องค์ นอกนั้นมีหอระฆัง ตึกเจ้าแม่กวนอิม แล้วก็วิหารเจ้าแม่กวนอิมพันแขน วัดนี้ถูกทำมาถูกหลักฮวงจุ้ยแท้ๆเป็นข้างหน้าเป็นน้ำข้างหลังเป็นเขา มีแนวเขาจำนวนมาก ท้องนา ท้องน้ำ รวมทั้งมีแม้กระนั้นพืชเขียวชอุ่มแจ่มใส ยิ่งดูยิ่งงามประหลาดตาหาไม่ได้จากที่ไหน
จากนั้นถึงเวลาพักเที่ยง เอาแรงเพื่อเดินทางสู่ดินแดนที่มังกรนอนหลับ เมืองฮาทดลอง จังหวัด Quang Ninh ตรงนี้มีเขตแดน ชิดกับจีน ใช้เวลาสำหรับเพื่อการเดินทางตรงนี้นาน 4 ชั่วโมง ระหว่างนั้นเขามีให้แวะพักร้านค้ายาสมุนไพร หรือคนไหนกันจะนวดเพื่อบรรเทาตามความสะดวก
แวะทานมื้อเย็นเสร็จฝ่าช้อบอิสระต่อที่ตลาดเวลากลางคืนของเมืองฮาทดลอง มีอีกทั้งของกำนัล ของฝาก อย่างเช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ไม้หอมแกะ ฯลฯ แม่ค้าตรงนี้จำนวนมากกล่าวภาษาไทยได้ และก็สามารถต่อรองราคาผลิตภัณฑ์ได้ด้วยนะ
จากนี้ได้ดูความสวยของถ้ำด่งเทียนปะทุง มีหินงอกหินย้อยล้วนแล้วแต่งดงาม เพราะเหตุว่าถ้ำนี้พึ่งจะถูกศึกษาค้นพบก็เลยติดใจมากมายเป็นพิเศษที่ได้มาดูความสวยงามการประดับสีตามฝาผนังและก็มุมต่างๆที่ทำขึ้นโดยธรรมชาติและก็ถูกเติมแต่งโดยความสามารถมนุษย์ แสงสีที่พอดีก่อให้เกิดจินตนาการรูปร่างต่างๆอีกทั้ง มังกร นางอัปสร รูปแฟนชายหนุ่มสา ฯลฯ ดูความสวยงามของธรรมชาติถึงเวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกต่างๆแล้วเดินทางกลับสู่ท่าเรือฮาทดลอง
พักกินอาหารเย็นแล้วไกด์จะพาพวกเราไปดูการแสดงหุ่นกระบอกน้ำ เป็นศิลปกรรมประจำชาติซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม ที่ให้ดูได้เพียงแค่ตรงนี้แห่งเดียวของโลก
วันสุดท้ายในกรุงฮานอย เยี่ยม สี่เหลี่ยมด้านเท่าบาดิงห์ หลุมฝังศพผู้นำโฮจิมินห์ ป่าช้าใส่ร่างท่านผู้นำ ปิดเฉพาะวันจันทร์กับวันศุกร์ของอาทิตย์ แล้วก็ก.ย.ถึงพ.ย. โชคดีที่มาสิงหาคมเลยไม่พลาดที่กำลังจะได้ดู แม้กระนั้นสำหรับผู้ที่มาในตอนปิดบริการ สามารถดูความงามในบรรยากาศรอบนอกได้จ้ะ
ปิดท้ายด้วยมื้อเที่ยงตรงแบบจัดหนัก ทัวร์พามาจัดบุฟเฟต์นานาประเทศที่ห้องอาหาร ของกินละลานตามากมาย อร่อยกระทั่งท้องตึงรับประทานแบบไม่อายความเป็นกุลสตรีไทย
หมดแล้วกับทริปที่แสนพิเศษที่ได้ท่องไปยังเมือสีสันต์ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ราวกับภาพวาด ถ้าเกิดได้โอกาสได้ไม่เข้าทำงานมาอีก ทีหน้าอาจหนีไม่พ้นกรุงฮานอยที่มีความสงบเงียบและก็บรรยากาศอันน่าหลงไหล
Featured

ไหว้พระประเทศพม่า รวม 5 สถานที่ทำบุญทำกุศล เสริมดวงบารมี

ทัวร์พม่า
วันนี้ทางพวกเราก็เลยได้สะสมรายนาม 5 วัดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไหว้พระประเทศพม่านิยมไปกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง !1.
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda)
เมื่อเอ่ยถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศพม่าแล้ว คนจำนวนมากชอบรำลึกถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง มาก่อนเป็นอันดับที่หนึ่งสถานที่สุดได้รับความนิยมชั้น 1 ของทัวร์ไหว้พระเมียนมาร์ เพราะมีรายการวิทยุแล้วก็รายการทีวีหลายรายการป้องกันอย่างยิ่งจริงๆที่จัดทัวร์ไหว้พระประเทศพม่าตรงนี้ ก็เลยไม่ประหลาดใจว่าเพราะอะไรพวกเราถึงคุ้นชื่อเจดีย์ชเวดากองจากเมืองปิ้งกุ้งอย่างดีเยี่ยม
ส่วนความเป็นมาของความศักดิ์สิทธิ์ของเจดีย์ชเวดากองกระทั่งใครๆก็ต้องการมาทัวร์เมียนมาร์ไหว้พระนั้น เริ่มมาจากการที่ บุเรงท่วม มาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ลานอธิฐานก่อนออกศึก แล้วก็แน่ๆว่าในที่สุดเขาก็ชอบชนะซะทุกหน นอกเหนือจากนั้นยังมีความเชื่อของชาวมอญแล้วก็ชาวเมียนมาร์อีกด้วยว่าการมากมายราบไหว้เจดีย์ชเวดากองนั้นจะเป็นวิถีทางหมดทุกข์ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ และก็อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเจดีย์ชเวดากองก็คือบริเวณรอบๆเจดีย์นั้นจะมีทุกวันกำเนิดตั้งอยู่ 8 ด้าน ที่สามารถเลือกขอพรตามวันเกิดเพื่อเป็นบารมีกับชีวิตได้อีกด้วย
2.เทวดาทันใจ (Bo Bo Gyi) อีกหนึ่งไฮไลท์ของทัวร์ประเทศพม่า
นอกเหนือจากพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว อีกหนึ่งโปรแกรมทัวร์เมียนมาร์ไหว้พระ ที่คนนิยมไปกันก็คือ ทัวร์ไหว้พระเทวดาทันใจ ที่เจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทวดาทันใจนั้นจะมีชื่อเรียกในภาษาเมียนมาร์ว่า นัตโบโบยี ซึ่งมาจากคำว่า “นัต” เป็นจิตวิญญาณที่สูงกว่าผีแม้กระนั้นต่ำยิ่งกว่าเทวดาตามคติความศรัทธาเมียนมาร์ มีบทบาทป้องกันสถานที่สำคัญต่างๆกับคำว่า “ โบโบยี ” ที่คนประเทศพม่าใช้เรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือบุคคลที่ตนเคารพนับถือ
ส่วนต้นเหตุของชื่อ เทวดาทันใจ มาจากความศักดิ์สิทธิ์ที่บอกต่อกันปากต่อปากว่าเมื่อมาขอพรตรงนี้แล้วพอกลับไปไม่กี่วันพรนั้นก็จะสมความต้องการ ก็เลยเป็นต้นเหตุของชื่อ เทวดาทันใจ และก็เป็นเลิศในต้นสายปลายเหตุที่คนอีกหลายๆคนท่องเที่ยวไหว้พระเมียนมาร์
3.ทัวร์ไหว้พระเมียนมาร์กับ เทวดากระซิบบอก (Amadaw Mya Nan Nwe)
เมื่อพวกเราไปไหวเทวดาทันใจแล้ว ส่วนมากท่องเที่ยวประเทศพม่าจะพาไปไหว้พระ สักการ เทวดากระซิบบอก กันต่อเลย เพราะสถานที่ตั้งของเทวดากระซุบกระซิบนั้นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทวดากระซิบบอกมีชื่อเรียกในภาษาประเทศพม่าว่า “อะมาดอว์เมียะ” เป็นบุตรสาวของพญานาคที่เชื่อถือพุทธเป็นอย่างมาก เมื่อตายไปก็เลยแปลงเป็น นัต
ส่วนสาเหตุของชื่อเทวดากระซิบบอก แล้วก็ความอำนาจที่ล่อใจไหว้พระประเทศพม่านั้น บอกเลยว่ามีต้นเหตุมาจากชาวไทยนี่แหละ แรกเริ่มชาวประเทศพม่าก็ไหว้ อะมาดอว์เมียะ ปกติ แม้กระนั้นไม่มีผู้ใดไปกระซิบกระซาบอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งไกด์จากทัวร์ไหวพระเมียนมาร์ได้พาคนประเทศไทยไปและก็มองเห็นป้ายภาษาประเทศพม่าที่เขียนว่า “ห้ามพูดเสียงดัง” เหตุเพราะมีพ่อค้าแม่ขายรอบๆนั้นถูกใจโหวกเหวกโวยวาย แม้กระนั้นไกด์รู้ผิดก็เลยบอกกับลูกทัวร์ไปว่า “ถ้าเกิดจะขอพรกับเทวดาองค์นี้ห้ามพูดเสียงดัง” จากนั้นลูกทัวร์ชาวไทยก็ไปกระซิบกระซาบขอพร ซึ่งแน่ๆชาวประเทศพม่ามองเห็นชาวไทยทำและก็สมหวังตามประสงค์ก็เลยเริ่มทำบ้าง จนกระทั่งแปลงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสุดท้าย
4.สักการพระเขี้ยวแก้ว ศรีลังกา (Dalada Maligawa)
ที่ปิ้งกุ้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกชิ้นหนึ่งที่คู่ควรกับการไปไหว้พระเมียนมาร์โน่นเป็น พระเขี้ยวแก้ว ที่วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี โดยพระเขี้ยวแก้วชิ้นนี้ได้เอามาจากประเทศศรีลังกาตั้งแต่ยุคพระผู้เป็นเจ้าบุเรงท่วม นับว่าเป็นสิ่งอำนาจที่อยู่คู่กับประเทศพม่ามาเป็นเวลายาวนาน ในส่วนของตัววัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณีนั้นก็จัดว่าไม่ธรรมดา เพราะเหตุว่าเป็นการก่อสร้างแบบตามสถาปัตยกรรมแบบประเทศพม่า สวย งอนงาม โดยมีข้อดีตรงที่ตัววัดจะเป็นทรงแปดเหลี่ยมที่งดงาม ก็เลยเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะมาไหว้พระเมียนมาร์ที่วัดนี้
5.สักการพระนอนตาหวาน (Kyauk Htat Gyi Buddha)
ถ้าหากเมืองไทยมีพระนอนที่วัดโพธิ์เป็นแหล่งเย้ายวนใจนักเดินทางแล้ว ไหว้พระเมียนมาร์ก็มี พระนอนตาหวานหรือพระพุทธนอนหลับเจาทัตยี (Chauk Htat Gyi pagoda) ที่วัดพระพุทธนอนหลับเจาทัตยี เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญด้วยเหมือนกัน โดยพระนอนตาหวานนี้เป็นพุทธรูปปริมาณยาวโดยประมาณ 70 เมตร ใหญ่ที่สุดในประเทศเมียนมาร์ มีคุณลักษณะเด่นตรงที่ดวงตาที่มองหวานรวมทั้งผ้าจีวรที่เป็นพลิ้วไหวๆส่วนตรงจุดศูนย์กลางฝ่าพระบาทนั้นจะมีรูปมงคล 108 ประการ ยิ่งกว่านั้นพระบาทยังมีลักษณะทับกันทำให้ต่างกันกับศิลป์แบบไทยอีกด้วย
Featured

ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศเกาหลี

ทัวร์เกาหลี
ประเทศเกาหลี ตั้งอยู่บนแหลมประเทศเกาหลี ระหว่างสมุทรทิศตะวันออก (East Sea) ใกล้ๆกับประเทศญี่ปุ่น กับสมุทรเหลือง (Yellow Sea) ถูกแบ่งได้เป็นสอง ส่วนที่รอบๆเส้นขนานที่ 38 โดยมีเขตปลอดทหาร (Demilitarized Zone : DMZ) หรือพันมุนจอม (Panmunjeom) กั้นกึ่งกลางไว้ ทางเหนือดูแลด้วยระบบระบอบคอมมิวนิสต์ เป็นประเทศเกาหลีเหนือ โดยมีรัสเซียสนับสนุน ส่วนข้างล่างดูแลด้วยระบอบประชาธิปไตย โดยมีสหรัฐฯเข้ามามีหน้าที่ช่วยเหลือ โน่นเป็นประเทศเกาหลีใต้ ประเทศเกาหลีใต้มี พื้นที่ 99,500 ตารางกิโลเมตร พื้นที่โดยมากเป็นเทือกเขาซึ่งมีถึงจำนวนร้อยละ 70 ด้วยเหตุนั้นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวธรรมชาติของประเทศเกาหลีก็เลยมีมาก คนประเทศเกาหลีเองนิยมไปป่ายปีนเขากันในวันหยุดวันเสาร์ อาทิตย์ด้วย ประเทศเกาหลีใต้มีพลเมืองราวๆ 49 ล้านคน โดย 1 ใน 4 ของประชากรการทั่วประเทศจะเข้ามาอาศัยรวมทั้งดำเนินงานในกรุงโซลซึ่งเป็นเมืองหลวง
ลักษณะของอากาศ
– ประเทศเกาหลีอยู่ในเขตอบอุ่นซึ่งมีอยู่ 4 ฤดูใน 1 ปี
– ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มตั้งแต่สิ้นเดือนเดือนมีนาคมจนกระทั่งพ.ค. อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 7 ถึง 13 องศาเซลเซียส
– หน้าร้อน สิ้นเดือนเดือนมิถุนายนถึงกันยายน อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 25 ถึง 35 องศาเซลเซียส
– ฤดูใบไม้ร่วง สิ้นเดือนเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 5 ถึง 15 องศาเซลเซียส
– หน้าหนาว ธันวาคมถึงช่วงกลางเดือนมี.ค. อุณหภูมิอยู่ระหว่าง -10 ถึง 5 องศาเซลเซียส
เวลา
– ประเทศเกาหลี เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง
ภาษา
– สามัญชนใช้ภาษาประเทศเกาหลีเป็นภาษาหลัก ส่วน ภาษาอังกฤษสามารถใช้ได้กับสามัญชนส่วนน้อย
เงินรวมทั้งบัตรเครดิต
สกุลเงินของประเทศเกาหลีเป็น วอน โดยเครื่องหมาย “W” เหรียญกษาปณ์แบ่งได้เป็น 1, 5, 10, 50, 100 รวมทั้ง 500 วอน แบงค์มี 1000, 5000 รวมทั้ง 10,000 วอน อัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่โดยประมาณ 1,200 วอน ต่อ 1 เหรียญสหรัฐ หากเอามาเทียบกับเงินบาทไทย 1 วอนจะมีค่าพอๆกับ 0.030 บาท (อัตราตามแบงค์กรุงเทวดาในวันที่ 07 เม.ย. 2553) การแลกเงินสามารถแลกเปลี่ยนพอดีท่าอากาศยานประเทศไทยในวันเดินทาง (ถ้าหากอยากแลกเปลี่ยนที่ท่าอากาศยานประเทศเกาหลีหรือ โฮเต็ลที่ประเทศเกาหลีใต้ จำเป็นต้องใช้ เงินยูเอสดอลล่าร์ ($US) แลกเปลี่ยนแค่นั้น) เงินบาทไทย ใช้ที่ประเทศเกาหลีมิได้ และไม่มีที่รับเปลี่ยน หากมีเงินยูเอสดอลล่าร์ นำไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศเกาหลี จะได้ราคาออกจะดี
ระบบกระแสไฟฟ้า
ระบบกระแสไฟฟ้าในประเทศเกาหลีใช้ไฟ 220 โอ้อวดลท์ (เสมือนเมืองไทย) เป็นปลั๊กไฟกลม 2 หรือ 3 ขา (มีสายดิน) ด้วยเหตุผลดังกล่าวท่านที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้า ได้แก่ กล้องถ่ายภาพวิดิโอ โทรศัพท์มือถือ เครื่องเป่าผมควรจะมีปลั๊กไฟฟ้าแบบใช้ได้ทั่วทั้งโลกประจำตัวไปด้วย เพื่อความสบายของท่านขอความปรานีจัดแจง ฟิล์มถ่ายภาพ, กางตเตอร์ปรี่ ไปให้พอเพียงจากเมืองไทย
ฟิล์มถ่ายรูปแล้วก็กล้องที่เอาไว้สำหรับถ่ายภาพ
ควรจะเตรียมตัวสำหรับการไปให้พอเพียงโดยยิ่งไปกว่านั้นฟิล์มถ่ายรูปเนื่องจากว่าที่ต่างชาติราคาจะสูงมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตามสถานที่เที่ยว แล้วก็ควรจะจัดแจงถ่านใส่กล้องไปด้วยเนื่องจากว่าอากาศเย็นถ่านจะหมดสภาพเร็ว
การใช้โทรศัพท์
บัตรโทรศัพท์มีขายทั่วๆไป ตามเคาน์เตอร์โฮเต็ล, ซุปเปอร์มาร์เก็ต ราคา 3,000 / 5,000 และก็ 10,000 วอน
โทรกลับเมืองไทยจังหวัดกรุงเทพ : 001-66-2-ลำดับที่โทรศัพท์เจ็ดหลัก ชนบท : 001-66-และก็ตามด้วยรหัสจังหวัด-ลำดับที่โทรศัพท์หกหลัก โทรศัพท์ระบบ HUTCH ใช้ประโยชน์ได้เลยโดยขอเปิด ROMMING ใช้บริการในต่างชาติ ก่อนจะมีการเดินทางอย่างต่ำ 7 วัน
การให้ทิป
การให้ทิปในประเทศประเทศเกาหลีมีความจำเป็นมากมาย โดยธรรมดาตามห้องอาหาร,โฮเต็ลจะไม่มีบริกร รออำนวยความสะดวก ผู้รับบริการจำเป็นต้องดูแลตนเอง อาทิเช่น นำกระเป๋าขึ้นห้องพักเอง โดยเหตุนี้ถ้าเกิดใช้บริการของบุคลากรควรจะให้ทิปตามธรรมเนียมปฏิบัติ ส่วนคนขับ ไกด์เขตแดน ที่อำนวยความสะดวกระหว่างทัวร์ ธรรมดาเฉลี่ยแล้ววันละ 3,000 วอน / คน / วัน
ของกิน
ของกินนานาประเภทมากเจอได้ในประเทศประเทศเกาหลี ตอนแรกประเทศเกาหลีเป็นประเทศเกษตรกรรม รวมทั้งชาวประเทศเกาหลีเพาะปลูกข้าวเป็นของกินหลักมาตั้งแต่สมัยโบราณ มาในสมัยปัจจุบันของกินประเทศเกาหลีจะเป็นตำหรับซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์นานาจำพวก ปลา และพืชสีเขียวแล้วก็ผักต่างๆของกินดองต่างๆเป็นต้นว่า กิมจิ หน้าจอทกอล (jeotgal) (อาหารทะเลหมักเกลือ) รวมทั้ง ดนจัง (deonjang) (ถั่วเหลืองหมักเหลว) ลือชื่อในรสโดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วก็มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
รายการช้อปปิ้ง
เครื่องนุ่งห่ม, เครื่องไม้เครื่องมือกีฬา, เครื่องหนัง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ชนิดขนสัตว์, เพชรพลอย, ของโบราณและก็วัตถุโบราณ, โสม, ศิลป์และก็งานหัตถกรรมพื้นบ้าน, สุราแล้วก็ชาพื้นบ้าน, กิมจิแล้วก็ของกินอื่นๆ